

BLOG

การสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองอย่างไร
เราต้องทำความรู้จัก คำว่า แบรนด์ ( Branding ) คือ การสร้างแบรนด์ หรือ การสร้างตราสินค้า ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์หรือจุดเด่นให้กับตราสินค้า (Brand) โดยที่เป้าหมายหลักของ การสร้างแบรนด์ คือ การทำให้ลูกค้ารับรู้ตัวตนของแบรนด์และสามารถจดจำได้ว่า Brand ทำอะไรหรือเกี่ยวกับอะไร
-
กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน
เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า สินค้านี้ขายใครก็ได้ ขายไม่จำกัดว่าเป็นใคร น่าจะทำให้ขายได้เยอะ แต่จริงๆแล้ว อันดับแรกของการสร้างแบรนด์ที่ดี (ที่จะนำมาซึ่งยอดขายที่ดี) จะต้องมองเห็นลูกค้าอย่างชัดเจนว่าเค้าเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ทำงาน หรือเรียนอะไร ชอบอะไร ใช้ชีวิตอย่างไร อาจจะต้องรู้จักไปยังครอบครัว หรือรายได้อีกด้วย ยิ่งรู้เยอะก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราเลือกสร้างแบรนด์สินค้าได้เหมาะสม และสื่อสารออกไปได้อย่างตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
2.กำหนดคุณค่าของแบรนด์ ที่ธุรกิจของคุณจะสร้างให้กับลูกค้าเป้าหมาย
วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเขียนมันออกมานั่นเอง ซึ่งไม่ใช่การเขียนเล่นๆให้ดูเท่ หรือให้คนจำได้แบบสโลแกนนะคะ แต่เป็นการสรุปพันธกิจของแบรนด์ออกมาเป็นข้อความสั้นๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเราเอง หุ้นส่วน พนักงาน และลูกค้าของเราให้เข้าใจถึงตัวแบรนด์อย่างชัดเจน โดยหลายๆครั้งแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรงและด้วยความตั้งใจ คุณค่าของแบรนด์จะถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบ สโลแกน, รูปแบบคำพูดที่สื่อสาร , ภาพ, โฆษณา, วัฒนธรรมองค์กร, รูปแบบสินค้า และอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน ที่จะทำให้ลูกค้าและทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง รับรู้ถึงความตั้งใจนี้ (ขอกระซิบบอกว่า เวลาที่คนติดใจในแบรนด์ ก็เป็นเพราะเค้าเห็นคุณค่าที่แบรนด์ตั้งใจสร้างขึ้นมานั่นเอง)
3.ศึกษาแบรนด์อื่นๆในตลาด
นอกจากจะมุ่งมั่นเข้าใจลูกค้าแล้ว ก็ลองดูด้วยว่าแบรนด์อื่นๆที่ขายสินค้าประเภทคล้ายๆเรา เค้าวางแบรนด์เค้าไว้ว่าอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะแบรนด์เจ้าใหญ่ๆ เช่นเรื่อง สินค้าที่ขายดี เสียงตอบรับจากลูกค้า แนวทางการสื่อสารกับผู้คน ฯลฯ เพื่อเป็นแนวทางให้เราเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจประเภทนนี้มากขึ้น ช่วยให้เราสร้างแบรนด์ที่มีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นจุดขายเฉพาะตัวของแบรนด์เราค่ะ
4. สร้างโลโก้และสโลแกน
คราวนี้ก็มาถึงสิ่งที่จับต้องได้กันบ้าง ซึ่งจะมองว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆส่วนนึงของการทำแบรนด์เลยก็ได้ นั่นคือภาพโลโก้ที่จะติดไปในทุกๆที่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ทั้งบนตัวสินค้า แพ็กเกจ นามบัตร ภาพโฆษณาทางสื่อทุกรูปแบบ ซึ่งในตอนแรก เราอาจจะรู้สึกว่าต้องลงทุนทั้งเงินและเวลาไปกับสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าคุณทำสำเร็จ ภาพโลโก้ของคุณจะเป็นสิ่งที่คนจดจำได้อย่างชัดเจนไปอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นโลโก้ที่ดีก็ควรจะโดดเด่น แตกต่าง เป็นที่จดจำได้ง่าย และไม่ดูล้าสมัยเร็วนะคะ เพราะเราตั้งใจจะใช้มันเป็นที่จดจำไปนานๆนั่นเองค่ะ
5.กำหนดวิธีการสื่อสารของแบรนด์
ลองนึกถึงว่าแบรนด์ของเราจะมีบุคลิกที่แสดงออกไปต่อลูกค้าอย่างไร เช่น เป็นแบรนด์ที่ดูมืออาชีพ หรือจะดูเป็นมิตร เน้นบริการเป็นเลิศ เป็นต้น ซึ่งมันก็คืออยู่กลุ่มลูกค้าที่เราสนใจ คุณค่าที่เราตั้งใจจะให้กับแบรนด์ และลักษณะของธุรกิจด้วย
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ลองนึกประกันภัย แบรนด์ต่างๆจะเน้นความเป็นมืออาชีพ เพราะรูปแบบธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือ มั่นคง แต่เค้าก็จะมีจุดยืน และวิธีการสื่อสารไปยังลูกค้าที่แตกต่างกัน บางแบรนด์อาจเน้นความซึ้ง ประทับใจ ให้เห็นคุณค่าของชีวิต, บางแบรนด์อยากนำเสนอเรื่องความเป็นมิตร ความเข้าใจลูกค้า การรับฟัง ไม่ทอดทิ้ง ส่วนบางแบรนด์ก็สื่อสารออกมาใหนเรื่องความสนุกสนานในการใช้ชีวิต มีโฆษณาตลกๆออกมา
การสร้างแบรนด์ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก นับเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจ เวลาที่เราเห็นแบรนด์เจ๋งๆ เมื่อดูดีๆ จะพบว่าเค้ามีรายละเอียด เรื่องราวที่มาที่ไปมายมากจนทำให้แบรนด์ออกมาน่าสนใจ ส่วนสุดท้ายนี้การที่แบรนด์จะออกมาดีและยืนยาว ผู้ดูแลก็ต้องใส่ใจไปในผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดี ตอบโจทย์ รวมทั้งมีความจริงใจกับผู้บริโภคด้วยค่ะ เพียงเท่านี้ ต่อให้มีคู่แข่งที่ขายของแบบเดียวกับเราเข้ามาในราคาที่ถูกกว่า แต่คนก็จะยังเลือกซื้อแบรนด์ที่เค้ารู้จักและมั่นใจกว่าอยู่ดีนั่นเอง